รมว. กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) สั่งการให้มีการคุมเข้ม และตรวจสอบใน ภาคอุตสาหกรรม โดยในช่วงฤดูหนาวนี้ต้องไม่สร้าง ปัญหา PM2.5 (27 ธ.ค. 2564) กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) ได้มีการดำเนินการคุมเข้ม และทำการตรวจสอบภายใน ภาคอุตสาหกรรม โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าในช่วงฤดูหนาวนี้ จะต้องไม่มีการสร้าง ปัญหา PM2.5 (ฝุ่นละอองขนาดเล็ก)
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมโรงงาน ปูพรมตรวจกำกับโรงงานอย่างเข้มงวด ตลอดฤดูหนาวนี้ เน้นตรวจโรงงานที่มีกระบวนการเผาไหม้ โรงงานที่มีการใช้หม้อน้ำ โรงงานหลอมเหล็กหรือโลหะ โรงงานผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ และโรงงานผลิตแอสฟัสติก ที่มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 2,570 โรงงาน โดยแบ่งเป็น
– โรงงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 268 โรงงาน
– โรงงานในเขตปริมณฑล (นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร) จำนวน 2,245 โรงงาน
– โรงงานที่ตั้งในเขตประกอบการ จำนวน 6 เขต รวม 35 โรงงาน
– โรงงานรีไซเคิล กากอุตสาหกรรมและเตาเผากากของเสีย จำนวน 32 โรงงาน
ตั้งเป้าตรวจเสร็จก่อนสิ้นปี 2564 พร้อมกำชับผู้ประกอบการวางแผนการผลิต และควบคุมดูแลการประกอบกิจการ ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ย้ำต้องดูแลรักษาระบบบำบัดมลพิษอากาศให้มีประสิทธิภาพตลอดเวลา หากพบการกระทำผิด จะให้สั่งหยุดประกอบกิจการทันที
นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวต่อว่า ในช่วงฤดูหนาว การหมุนเวียนของอากาศไม่ดี ทำให้มีฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) สะสมจำนวนมาก กรอ. จึงดำเนินการเชิงรุก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่า การประกอบกิจการโรงงานจะไม่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยการนำรถตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ เร่งตรวจวัดคุณภาพอากาศทั่วไป โดยรอบพื้นที่เขตประกอบการและพื้นที่โรงงานหนาแน่น จำนวน 12 พื้นที่ รวม 130 จุด ซึ่งจะดำเนินการต่อเนื่องทั้งปี รวมทั้งสิ้น 516 จุด
รวมถึงจะทำการตรวจวัดฝุ่นละอองจากปล่องระบายของโรงงานเพิ่มอีก 104 โรงงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้โรงงานสร้างความเดือดร้อน หรือก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน อีกทั้งเป็นการป้องปรามให้โรงงานประกอบกิจการด้วยความระมัดระวังอีกด้วย
อธิบดีกรมโรงงานฯ กล่าวปิดท้ายไว้ว่า “นอกจากนี้ กรอ. ได้เร่งปรับปรุงระบบตรวจสอบมลพิษระยะไกล และปรับปรุงกฎหมาย ให้โรงงานที่มีความเสี่ยงด้านมลพิษอากาศ ต้องติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดมลพิษทางอากาศจากปล่องแบบอัตโนมัติ หรือ CEMS ที่รายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์มายัง กรอ. คาดว่าจะมีโรงงานทั่วประเทศเข้าข่ายต้องติดตั้งเครื่องมือเพิ่มทั้งหมด 600 โรงงาน รวม 1,300 ปล่อง จากเดิมที่มีการติดตั้งอยู่แล้วจำนวน 855 ปล่อง เพื่อให้การกำกับดูแลการระบายมลพิษจากโรงงาน มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมปัญหาด้านฝุ่นละอองอย่างทั่วถึง”
ผวา! พบผู้ป่วย ‘โอมิครอน’ ใน ‘สุรินทร์’ 3 ราย เช็กประวัติ เจอเที่ยวช้างแฟร์
ชาว สุรินทร์ ผวาหลังพบผู้ป่วย โอมิครอน 3 ราย ตรวจประวัติพบหนึ่งในผู้ป่วยเที่ยวงานช้างแฟร์ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มเฟซบุ๊ก ‘สุรินทร์สู้ COVID-19‘ ได้มีการเปิดเผยถึงไทมไลน์ของผู้ป่วยโอมิครอนที่ถูกพบในจังหวัดแล้วสามราย อย่างไรก็ตามหนึ่งในผู้ป่วยพบว่า เคยมีประวัติเดินทางเข้าร่วม งานช้างแฟร์ที่ จ.สุรินทร์
โดยผู้ป่วยคนดังกล่าว ซึ่งเป็นนักศึกษาชายวัย 16 ปี มีไทม์ไลน์ระบุว่า พักอาศัยอยู่ที่บ้านกับพ่อ ตา ยาย และน้องสาว ที่บ้านโคกสง่า ต.แพงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยทุกๆ วันก็ได้เดินทางไปเรียนหนังสือ พร้อมกับน้องสาวโดยรถจยย. กระทั่งวันที่ 15 ธ.ค.64 ช่วงค่ำ ได้ไปชมคอนเสิร์ตกับน้องสาวที่งานช้างแฟร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ และญาติ 5 คน
จากนั้นวันที่ 16 ธ.ค.ก็เดินทางไปเรียนหนังสือ วันที่ 17 ธ.ค.ไปชมคอนเสิร์ธที่งานช้างแฟร์พร้อมกับน้องสาวและญาติ 5 คน ช่วงบ่ายวันที่ 18 ธ.ค.ที่ไปตลาดสด ช่วงเย็นรับประทานอาหารร่วมกับญาติๆ รวม 11 คน เนื่องจากน้าสาว น้าเขยและลูกของน้าเขย เดินทางกลับลจากประเมศเดนมาร์ก
วันที่ 19 ธ.ค.ไปเที่ยวผาจำเนียง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ช่วงเย็นไปห้างโลตัสที่ อ.ปราสาท กระทั่งวันที่ 20 ธ.ค.เริ่มมีไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ วันที่ 23 ธ.ค.ไปโรงพยาบาลพร้อมกับพ่อ น้าสาว น้าเขย ลูกของน้าเขย และน้องสาว และผลตรวจออกมาพบว่า เจ้าตัวติดโควิด รวมทั้งน้าสาวและน้าเขย ก่อนส่งตรวจหาสายพันธุ์ จนพบว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอน มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 30 ราย เสี่ยงต่ำ 21 ราย
วันที่เข้ารับการฉีดวัคซีน ตามตารางการจองวันและเวลาการฉีดวัคซีนในเดือนมกราคม 2565 (เปิดฉีดเฉพาะบางวัน) ในแอปพลิเคชันจองฉีดวัคซีนโควิด 19 โดยเริ่มฉีดวันแรกวันที่ 6 มกราคม 2565 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 15.00 น. ณ หอประชุมราชแพทยาลัย โรงพยาบาลศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล (ข้างหอสมุดศิริราช) ผู้สนใจสามารถจองการฉีดวัคซีนผ่านทางแอปพลิเคชันศิริราชคอนเน็ค (Siriraj Connect) ได้ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2564 โดยจะเปิดรับเวลา 12.00 น. ถึงวันที่ 14 มกราคม 2565 หรือ สแกน QR code เพื่อเข้าระบบจองคิวฉีดวัคซีนโควิด 19
